บริการถ่ายภาพสุดประทับใจ

..คลิกที่รูป...บริการถ่ายภาพสุดประทับใจ prewedding รับปริญญา พิธีการต่าง แฟชั่น อีกมากมาย ติดต่อ : 0899274733 msn:tuchkay@hotmail.com

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

สวนสราญรมย์


หลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งอันร้อนระอุไปแล้ว ฉันก็ยังไม่รู้แน่ว่าสถานการณ์การเมืองของบ้านเราในตอนนี้จะเป็นไปในทิศทาง ไหนกันแน่ แต่อย่างน้อยหนุ่มลูกทุ่งอย่างฉันก็ได้กลับบ้านนอกไปทำหน้าที่ของพลเมืองที่ ดีกับเขาด้วยเหมือนกัน แม้ว่าจะมีอะไรหลายๆ อย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่ดูแปลกประหลาดผิดธรรมดาไปบ้างก็ตาม

แต่ในเมื่อผ่านเรื่องการเมืองร้อนๆ ไปแล้วก็แล้วกันไป ฉันว่าเราไปหาที่เย็นๆ พักผ่อนเดินเล่นตามประสาคนชอบเที่ยวกันดีกว่า และวันนี้ฉันจะพาไปยัง "สวนสราญรมย์" สวนสาธารณะกลางเกาะเมืองรัตนโกสินทร์

สวนสราญรมย์แต่เดิมนั้น เรียกว่าเป็นพระราชอุทยานของพระราชวังสราญรมย์ ซึ่งฉันคงต้องเท้าความต่อไปว่า พระราชวังสราญรมย์นั้นก็คือพระราชวังที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใกล้ๆ กับพระบรมมหาราชวัง โดยในตอนแรกนั้นพระองค์ทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าจะใช้วังนี้เป็นที่ประทับ และคอยแนะนำข้อราชการแผ่นดินต่างๆ หลังจากที่ทรงมอบราชสมบัติให้แก่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (หรือสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมขุนพินิตประชานาถในขณะนั้น) แต่พระองค์เสด็จสวรรคตเสียก่อนที่พระราชวังจะสร้างเสร็จ

พอมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อจนสำเร็จ และพระราชทานวังสราญรมย์ให้เป็นที่ประทับของพระเจ้าน้องยาเธอก่อนที่จะออก วัง (การมีวังที่ประทับถาวร) รวมทั้งยังใช้เป็นสถานที่รับรองแขกเมืองจากต่างประเทศอีกด้วย นอกจากนั้นในระหว่างปีพ.ศ.2428-2430 พระราชวังสราญรมย์แห่งนี้ก็ยังเคยเป็นที่ทำการของกระทรวงต่างประเทศ หรือที่ขณะนั้นยังเรียกชื่อว่าเป็น “ศาลาว่าการต่างประเทศ” โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการฯ เป็นเสนาบดีว่าการต่างประเทศ

ในรัชกาลต่อๆ มาก็ยังคงใช้พระราชวังสราญรมย์ในประโยชน์ต่างๆ กัน เช่นในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ก็ทรงใช้วังนี้เป็นที่ประทับแห่งหนึ่ง และโปรดฯ ให้ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะเช่นเดิม รวมทั้งยังได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้เป็นสถานที่จัดงานรื่นเริงต่างๆ อีกด้วย และในช่วงรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 พระราชวังสราญรมย์ก็ได้เป็นที่ทำการของกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง และได้มีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมรวมทั้งซ่อมแซมตัวพระราชวัง จนเมื่อทางกระทรวงได้ย้ายที่ทำการไปยังถนนศรีอยุธยา พระราชวังสราญรมย์จึงได้เริ่มการซ่อมแซมใหญ่อีกครั้งจนปัจจุบัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2549 นี้เอง

ทีนี้ก็มาเข้าเรื่องของสวนสราญรมย์กันบ้าง พระราชอุทยานสราญรมย์ก็สร้างขึ้นพร้อมๆ กับตัวพระราชวังเช่นกัน และเนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่รับรองแขกจากต่างประเทศอยู่เสมอ จึงได้มีการประดับตกแต่งพระราชอุทยานอย่างสวยงามด้วยต้นไม้ดอกไม้ และยังมีการนำสัตว์ต่างๆ มาเลี้ยงไว้ในสวน เช่น จระเข้ กวาง รวมทั้งนกต่างๆ อีกด้วย

นอกจากจะเป็นสถานที่พักผ่อนสำราญพระราชอิริยาบถของเจ้านายต่างๆ ในอดีตแล้ว พระราชอุทยานนี้ก็ยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่ฝึกซ้อมวิชาทหารแก่มหาดเล็กรักษาพระองค์ รวมทั้งจัดงานฤดูหนาวประจำปี ในรัชกาลที่ 6 และหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองสมัยรัชกาลที่ 7 ก็ได้ใช้เป็นที่ตั้งสโมสรคณะราษฎร์สราญรมย์ แถมยังเคยใช้เป็นสถานที่จัดประกวดนางสาวไทยอีกด้วย และเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2503 รัฐบาลได้มอบให้กรุงเทพมหานครดูแลและปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะตั้งแต่นั้น มา

นั่นคือบรรยากาศของสวนสราญรมย์เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว และสภาพปัจจุบันของสวนนี้ที่ฉันเพิ่งได้ไปสัมผัสมาก็ยังคงความร่มรื่นสวยงาม ไม่แพ้กับเมื่ออดีต และบรรยากาศอย่างหนึ่งที่ฉันคิดว่าสวนอื่นๆ ไม่มีเหมือนที่นี่ก็คือกลิ่นอายของความเป็นพระราชอุทยานในอดีต ที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นในรูปของสิ่งก่อสร้างและประดับตกแต่งต่างๆ และทำให้สเน่ห์ของสวนสราญรมย์นี้ไม่เหมือนกับที่ไหนๆ

เริ่มตั้งแต่ประตูรั้วที่งดงามด้วยลวดลายพันธุ์พฤกษาและซุ้มประตูที่ สวยงาม แม้แต่ประตูก็ยังได้รับการอนุรักษ์และขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรแล้วด้วย ฉันเดินเข้ามาภายในสวนทางประตูด้านถนนเจริญกรุง และสิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือน้ำพุพานโลหะขนาดใหญ่แบบตะวันตกสีเงินสองชั้น บนพานน้ำพุประดับด้วยเทวดาตัวน้อยๆ ดูน่ารักน่าชัง และช่วยเสริมให้บรรยากาศในสวนสราญรมย์นี้ดูคลาสสิคเข้าไปใหญ่

เนื่องจากเป็นพระราชอุทยาน ดังนั้นภายในสวนสราญรมย์นี้จึงมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าอยู่หัว เช่น พระอนุสาวรีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์ พระอัครมเหสี และพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่ม เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้รัชกาลที่ 5 ทรงโศกเศร้าเสียใจมาก จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างอนุสาวรีย์นี้ขึ้นเพื่อเป็นที่บรรจุพระอัฐิและเป็นอนุสรณ์แห่งความ รักของพระองค์ บริเวณฐานของอนุสาวรีย์มีคำจารึกพระราชประวัติและคำอาลัยของรัชกาลที่ 5 เป็นร้อยแก้วและร้อยกรอง โดยจารึกลงบนแผ่นหินอ่อนไว้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

และบริเวณริมรั้วด้านทิศเหนือ ก็เป็นที่ตั้งของศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ศาลเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนที่เห็นครั้งแรกฉันคิดว่าเป็นศาลเจ้าของชาวจีนเสียอีก เพราะศาลเจ้าแม่ตะเคียนทองนี้มีลักษณะเป็นเก๋งจีนทรงหกเหลี่ยมสูง 3 ชั้น บริเวณด้านหน้าศาลมีที่ให้จุดธูปเทียนบูชาเจ้าแม่กันด้วย

ส่วนทางด้านหลังของสวนทางฝั่งถนนราชินี จะมีอาคารเรือนกระจกที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งต่อมาเมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้ใช้เป็นที่ทำการของ "ทวีปัญญาสโมสร" ซึ่งมีสมาชิกเป็นบรรดาเจ้านาย และข้าราชการระดับสูง กิจกรรมของสโมสรนี้ก็คือการออกหนังสือทวีปัญญารายเดือน การเล่นกีฬาในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงการแสดงละคร และเป็นห้องอ่านหนังสือ เป็นการจัดตั้งสโมสรแบบชาวตะวันตกนั่นเอง แต่ปัจจุบันอาคารหลังนี้ใช้เป็นโรงเรียนต้นไม้ ที่เปิดสอนและอบรมเรื่องต้นไม้ เช่น การปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์ หรือการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน และการจัดสวน การขยายพันธุ์ เป็นต้น

นอกจากบรรดาต้นไม้ดอกไม้อันร่มรื่นภายในสวนแล้ว สิ่งที่ทำให้บรรยากาศของสวนสราญรมย์ต่างไปจากสวนแห่งอื่นๆ ก็คือ ศาลาพักผ่อนภายในสวน ซึ่งมีทั้งศาลากระโจมแตร และศาลาแปดเหลี่ยม สำหรับศาลากระโจมแตรนั้นก่อนนี้เคยใช้เป็นที่บรรเลงแตรวงทหารเรือ และบรรเลงดนตรีเมื่อมีงานเลี้ยงในบริเวณพระราชอุทยาน ส่วนศาลาแปดเหลี่ยม ก็เป็นลักษณะของสถาปัตยกรรมที่นิยมกันมากในสมัยรัชกาลที่ 5

หลังจากเดินชมรอบๆ สวนแล้ว ฉันก็เลือกมานั่งพักอยู่ในศาลาแปดเหลี่ยม เป็นโชคดีของฉันที่ดอกลั่นทมหลายต้นใกล้ๆ นั้นกำลังออกดอกสีขาวอมเหลืองบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมเย็นๆ ชื่นใจดีเหลือเกิน บรรยากาศที่นี่ดีจนอดไม่ได้ที่จะหลับตาวาดภาพเมื่อครั้งที่สวนสราญรมย์ยังคง เป็นพระราชอุทยานสราญรมย์ มีพระเจ้าแผ่นดิน พระมเหสี และข้าราชบริพาร บรรดาเจ้าขุนมูลนายออกมาเดินชมสวน บรรยากาศในตอนนั้นคงจะมีชีวิตชีวามากทีเดียว

ก็เป็นเรื่องน่ายินดีกับสิ่งที่ฉันได้ยินมาว่า เร็วๆ นี้ ทางกรุงเทพมหานครก็มีโครงการจะจัดให้สวนสราญรมย์เป็นสวนวัฒนธรรมแห่งแรก ของกรุงเทพในบรรยากาศของยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีแห่งการครองราชย์ครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบัน เท่าที่ฉันเห็นในขณะนี้ก็คือได้มีการก่อสร้างศาลาไม้หลังเล็กๆ จำนวนหลายหลังด้วยกันเพื่อจัดทำบรรยากาศให้ใกล้เคียงกับในอดีตอย่างที่ ตั้งใจ ถ้าโครงการนี้เสร็จเมื่อไรฉันก็คงจะต้องกลับไปชื่นชมบรรยากาศของต้นกรุงรัตน โกสินทร์ที่สวนสราญรมย์แห่งนี้กันอีกครั้งหนึ่ง

สวนสราญรมย์ ตั้งอยู่ระหว่างถนนเจริญกรุง ตัดกับถนนราชินี แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. 10200 เวลาเปิดปิด 05.00 -20.00 น. ทุกวัน มีรถประจำทางสาย 1, 6, 12, 25, 43, 48, 75, 86 ผ่านทางถนนเจริญกรุง สาย ปอ.1, ปอ.12 ผ่านทางถนนราชินี และสาย 3, 9, 91, ปอ.6, ปอ.7 ผ่านทางถนนสนามไชย สอบถามโทร.0-2221-015, 0-2222-1035

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น